วัน สต๊อป เซอร์วิส ได้ฤกษ์เปิดโครงการ One Stop HR Center

วันนี้ทีมงานได้มีโอกาสได้เข้าสัมภาษณ์ คุณพจนีย์ โรจน์วราวัตร กรรมการผู้จัดการ บริษัท วัน สต๊อป เซอร์วิส เอนเทอร์ไพร์ส จำกัด ถึงการเปิดตัว ONE STOP HR CENTER by One Stop Service ตั้งอยู่บนชั้น 16 อาคารโอเชี่ยนทาวเวอร์ 2 ถนนอโศก แหล่งธุรกิจใจกลางกรุงเทพมหานคร 

ขอทราบวัตถุประสงค์การเปิดโครงการ ONE STOP HR CENTER

โครงการ ONE STOP HR CENTER นี้ วัตถุประสงค์ เราได้เปิดส่วนนี้ เพื่อเป็นแหล่งรวบรวมความรู้ และพัฒนาบุคลากร เพื่อธุรกิจ โดยเราใช้พื้นที่บนชั้น 16  อาคารโอเชี่ยนทาวเวอร์ 2 ซึ่งเป็นที่ตั้งเดียวกับสำนักงานใหญ่ ของบริษัท วัน สต๊อป เซอร์วิส เราได้ขยายพื้นที่จากเดิม เพื่อแบ่งเป็นโซนสำหรับ โครงการ ONE STOP HR CENTER  ซึ่งเราเล็งไว้ว่าจะพัฒนาให้เป็น Innovative District โดยวัตถุประสงค์ของเราคือ ใช้พื้นเป็นศูนย์กลางให้ สตาร์ทอัพ เข้ามาใช้บริการ Mentorship เชื่อมโยงกับแหล่ง Data และบริการต่างๆ ที่สตาร์ทอัพยังไม่มีโอกาสและกำลังเพียงพอ และจะมี Business Partner เช่น ที่ปรึกษาอิสระ และ กูรูโค้ช ชั้นนำของไทย มาให้คำปรึกษา และ เปิด Training Course แก่สมาชิกด้วยค่ะ

โมเดลของ ONE STOP HR CENTER คือ?

รูปแบบของเรา มีโครงสร้างคล้ายกับศูนย์การเรียนรู้ เราเล็งเห็นประโยชน์จากการเชื่อมโยงองค์ความรู้ด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์ สินค้า บริการ กับ การพัฒนาบุคลากร  จึงเกิดความคิดขึ้นว่า ถ้าเรามีพื้นที่ที่ให้สตาร์ทอัพ หรือ ผู้ที่มีอาชีพเป็น freelance มารวมตัวกัน แบ่งบันความรู้ ประสบการณ์ หรือ มาหาผู้ร่วมสร้างผลงานด้วยกัน สร้างพันธมิตรทางธุรกิจ  Bussiness Matching  และ มี training course ที่มีคุณภาพ และ เหมาะสมกับการต่อยอด พัฒนาศักยภาพของสตาร์ทอัพ ให้สามารถทำธุรกิจ และแข่งขันในโลกอนาคตได้อย่างแข็งแรงขึ้น 

ทำไมถึงต้องเป็นศูนย์รวม HR เพื่อพัฒนา SME  ด้วย?

จากโจทย์ที่เราพบ เนื่องจากเราทำงานรับบริหารงานบุคลากรมาเกือบ 20 ปี เราพบว่า  ผู้ประกอบการที่เริ่มต้นทำธุรกิจ เริ่มต้นจากขนาด SME มีข้อจำกัดในการบริหารงานบุคคลอยู่มาก บางบริษัทมีลูกจ้างไม่เกิน 10-20 คน เจ้าของบริษัทต้องมาบริหารจัดการ สรรหาพนักงาน ประกาศรับพนักงาน ทำเงินเดือน ยื่นประกันสังคม ยื่นภาษี อบรมพนักงาน ด้วยตัวเอง หรือ ต้องจัดจ้างพนักงานเพื่อมาทำงานฝ่ายบุคคล เพื่อมาจัดการงานส่วนนี้แทนนั้น ผู้ประกอบการมีปัญหาในการจัดจ้างบุคลากรมาทำงานบุคคลนี้อย่างมาก และเข้ามาปรึกษากับเรา  จึงเป็นโจทย์ให้เรามาคิด ว่าจะทำอย่างไรที่จะช่วยสนับสนุนผู้ประกอบการรายใหม่ๆ สามารถรันธุรกิจได้อย่างราบรื่น และเติบโต แข็งแรง และยั่งยืน เพราะ คนทำธุรกิจคงไม่ได้คิดจะเป็น SME ไปตลอด คงจะต้องการเติบโตเป็น S M L ด้วยเช่นกัน ซึ่งการบริหารจัดการ "คน" เป็นสิ่งสำคัญในการเติบโตของธุรกิจ

เราในฐานะที่ทำงานให้บริการบริหารงานบุคคลมานาน ไม่ว่าจะเป็นองค์กรภาครัฐ เอกชน สถาบันการเงินต่างๆ ไว้วางใจให้เราบริหารจัดการงานบุคคล เกือบ 200 บริษัท เรามีพนักงานที่ประจำหน่วยงานลูกค้า ปัจจุบันเกือบ 3,000 คน เราจึงอยากมีส่วนช่วยให้ผู้ประกอบการ SME มีทางเลือกในการจัดการบริหารงานบุคลากรได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น 

ภารกิจของศูนย์ คือ?

เราต้องการเป็นศูนย์รวมแหล่งความรู้ พัฒนา เป็น Knowledge Management Center ด้านพัฒนาบุคคลากร ฝึกอบรมให้ความรู้ ในด้านต่างๆที่มีประโยชน์ในการเริ่มต้นดำเนินธุรกิจ และ ให้คำปรึกษา วินิจฉัยธุรกิจ เพื่อให้ผู้ที่คิดริเริ่มทำธุรกิจได้เห็นตนเองได้อย่างชัดเจน และ ทำธุรกิจไปในทิศทางที่ถูกต้อง

Thailand 4.0 กับ คนไทยจะปรับตัวอย่างไรให้ทันความเปลี่ยนแปลงในโลกยุคนี้และอนาคต

ในด้าน แนวโน้มโอกาสที่ดีของประเทศไทยคือ คนไทยมีความพร้อมในการยอมรับและปรับสู่การใช้เทคโนโลยีและวิธีการใหม่ๆ ได้สูงมาก ซึ่งก็ถือว่าเป็นข้อเท็จจริงที่เป็นความได้เปรียบของผู้เสนอบริการแนวทางใหม่ๆ เราจึงได้พัฒนาหลักสูตร HR 4.0 ขึ้น เพื่อรองรับการพัฒนาคนในประเทศให้ทันต่ออนาคตที่ทุกคนต้องสามารถทำงานทุกที่ในโลก

HR 4.0 คืออะไร?

จะเห็นว่าที่ผ่านมามีนวัตกรรมที่ช่วยเพิ่มความสะดวกให้ผู้ใช้บริการอยู่เสมอ เช่นเรื่องของ Mobile Banking , FinTech มีการแข่งขันชัดเจนของสถาบันการเงินต่างๆ 

HR 4.0  ในมุมมองของเรา โดยเปลี่ยนทัศนคติว่า งานบริหารงานบุคคลเป็นงานน่าเบื่อ เช็คเวลาการมาทำงาน ออกเงินเดือน ทำสวัสดิการสำหรับพนักงานโน่น นี่ นั่น เราจะสร้างมิติใหม่ให้กับผู้ประกอบการ โดยบริหารจัดการงาน routine ทั้งหมดผ่าน Application สามารถจัดการงานบุคคลทั้งหมดผ่าน Mobile  แล้วงานหลังบ้านทั้งหมด จะถูกโอนเข้าระบบของบริษัท เพื่อนำมาดำเนินการจัดการทั้งหมด ตั้งแต่ทำเงินเดือนพนักงาน ยื่นประกันสังคม ภาษีเงินได้ และ ออกสลิปเงินเดือนส่งถึงพนักงาน หรือแม้กระทั่งการสรรหา จัดจ้างพนักงาน ฝึกอบรม เราดูแลงาน HR ให้ทุกอย่าง เรียกได้ว่าครบจบ เบ็ดเสร็จ ณ จุดเดียวที่เรา

SME สามารถโหลดโปรแกรมใช้งานง่ายๆ ก็สามารถบริหารจัดการงานบุคคลได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าบริษัท ห้างร้าน ที่มีจำนวนพนักงานไม่มากนัก ก็สามารถใช้บริการนี้ได้ผ่าน Mobile Apps. นี้ได้อย่างสะดวกสบาย ทำให้งานบุคคลไม่เป็นเรื่องน่าเบื่อ ยุ่งยากอีกต่อไป  ประเทศไทยเราก็เป็นประเทศที่มีการใช้สมาร์ทโฟน การเข้าถึงระบบอินเทอร์เน็ตที่สูงมากอยู่แล้ว ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี และ คาดว่าเราจะสามารถพัฒนาโปรแกรมให้แล้วเสร็จได้ในปี 2562 นี้ค่ะ